วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2555

พระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐




          มาตรา ๕ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึง
โดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกิน
หนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
          แปลความว่า ผู้ใดลักลอกเจาะผ่านเข้าใช้ระบบโดยที่ตนถูกกำหนดให้ไม่มีสิทธิเข้าใช้ ตัวอย่างเช่น การเจาะเข้าใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ผู้นั้นถูกห้ามไม่ให้เข้าใช้ ต้องระวังโทษจำคุกหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
_____________________________________________________________________________


          มาตรา ๖ ผู้ใดล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะ
ถ้านำมาตรการดังกล่าวไปเปิดเผยโดยมิชอบในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
          แปลความว่ ผู้ใดที่ลักลอบรู้เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ส่วนตัวของผู้อื่นแล้วนำข้อมูลการป้องกันที่รู้ไปเผยแพร่โดยเป็นการทำให้ผู้อื่นเกิดความเสียหาย ตัวอย่างเช่น การล่วงรู้ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน แล้วนำข้อมูลนี้ไปเผยแพร่แก่สาธารณะก่อให้เกิดความเสียหายหรือละเมิดสิทธิส่วนบุคคลแก่ผู้อื่น ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

_____________________________________________________________________________


          มาตรา ๗ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ
และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ
          แปลความว่า ผู้ใดที่ลักลอบเข้าใช้งานข้อมูลโดยเจาะผ่านระบบป้องกันซึ่งสร้างไว้ป้องกันผู้นั้นเฉพาะ  ตัวอย่างเช่น นาย ก ตังรหัสป้องกันการเข้าใช้ไฟล์เอกสารเพื่อป้องกันไม่ให้นาย ข เข้ามาอ่านหรือแก้ไข แต่นาย ข ได้กระทำการลักลอบเจาะผ่านการป้องกันเข้ามาอ่านและแก้ไขก่อให้เกิดความเสียหาย ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

_____________________________________________________________________________

          มาตรา ๘ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อดักรับไว้
ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่อยู่ระหว่างการส่งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น
มิได้มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อให้บุคคลทั่วไปใช้ประโยชน์ได้ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน
สามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
          แปลความว่า ผู้ใดที่ทำการลักลอบดักจับข้อมูลที่ทำการส่งผ่านเครือข่ายเพื่อล่วงรู้ความลับหรือเอาไปให้แก่คนอื่นใช้ประโยชน์ อันสร้างความเสียหายให้แก่เจ้าของข้อมูล ตัวอย่างเช่น นายเอ ดักจับการส่งข้อมูลด้านการตลาดของบริษัท บี แล้วนำข้อมูลนั้นไปให้บริษัทคู่แข่งของบริษัท บี ทำให้คู่แข่งรู้กลยุทธและตัดหน้า ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท บี  ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

_____________________________________________________________________________


          มาตรา ๙ ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือ
บางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกิน
หนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
          แปลความว่า ผู้ใดทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนของข้อมูลของผู้อื่นโดยประสงค์ร้ายอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น เช่นการตัดต่อรูปภาพของคนมีชื่อเสียงให้อนาจารอันก่อให้เกิดความเสียชื่อเสียง ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกิน
หนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

_____________________________________________________________________________


          มาตรา ๑๐ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์
ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ต้องระวางโทษจำคุก
ไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
          แปลความว่า ผู้ใดทำการก่อกวน สร้างความขัดข้อง ขัดขวาง รบกวนการทำงานจนเครื่องคอมพิวเตอร์ผู้อื่นไม่สามารถทำงานได้ ตัวอย่างเช่น การส่งข้อมูลซ้ำๆ กันเป็นจำนวนมากเพื่อเข้าโจมตีเครื่องบริการทำให้เครื่องบริการไม่สามารถทำงานได้ ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

_____________________________________________________________________________



          มาตรา ๑๑ ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่นโดยปกปิด
หรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของ
บุคคลอื่นโดยปกติสุข ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท
          แปลความว่า ผู้ใดที่ส่งข้อมูลหรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ โดยปกปิดตัวตนในการส่ง อันเป็นการก่อกวนสร้างความรำคาญแก่ผู้รับ ตัวอย่างเช่น การส่งสแปมป์เมล์ไปยังผู้รับโดยไม่ระบุผู้ส่งเป็นจำนวนมากเพื่อให้อีเมล์ของผู้อื่นเต็มหรือรกสร้างความรำคาญ ลำบากในการอ่านจดหมายอื่น ต้องระวังโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท

_____________________________________________________________________________




วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2555

โปรแกรม Kaspersky Antivirus 2012



1.ประวัติความเป็นมา
       Kaspersky เป็นโปรแกรมจากรัสเซีย บริษัทพัฒนาคือ Kaspersky Lab ก่อตั้งเมื่อปี 1999 เป็น บริษัท แรกที่นำซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสครบวงจรสำหรับเวิร์คสเตชั่ไฟล์เซิร์ฟเวอร์และเซิร์ฟเวอร์โปรแกรมประยุกต์ที่ทำงานบน Linux / FreeBSD ระบบปฏิบัติการ วันนี้ บริษัท มีทั้งช่วงของโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพขององค์กรที่เป็นที่นิยมมากที่สุดระบบปฏิบัติการที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับชนิดที่แตกต่างกันของธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ของ บริษัท ครอบคลุมทุกความต้องการของการรักษาความปลอดภัยข้อมูลหลักที่ธุรกิจและองค์กรขนาดใหญ่ของรัฐจะต้องปฏิบัติตาม 


2.คุณสมบัติ/ความสามารถในการจัดการ ป้องกันไวรัส
     Kaspersky Anti-Virus จะช่วยให้คุณสามารถสร้างตารางเวลาที่ยืดหยุ่นสำหรับคอมโพเนนต์ของโปรแกรมที่จะเริ่มต้นและดาวน์โหลดโดยอัตโนมัติและใช้การปรับปรุงฐานข้อมูลป้องกันไวรัสของคุณผ่านทางอินเทอร์เน็ต 
         การป้องกันแบบไฮบริดรวมของ Kaspersky เทคโนโลยีล่าสุดการรักษาความปลอดภัย - ที่ทำงานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ - บวกความเร็วอย่างมีประสิทธิภาพและรักษาความปลอดภัยข้อมูลระดับ โลก การป้องกันแบบ Real-time อีกยังมีพัฒนาต่อเนื่อง ระบบที่สร้างขึ้นมาเพื่อความปลอดภัยของการซื้อขายออนไลน์
       คุณสมบัติทั่วไป ตรวจสอบใหม่และตัวเลือกไฟล์ที่มีความเสียหายขั้นสูงทำความสะอาดขึ้น  โมดูลป้องกันเชิงรุกที่มีการบันทึกประวัติและการเรียกคืนไฟล์ ·ตรวจสอบการจราจร HTTP (AV) · Outlook Express (AS) และ TheBat! ปลั๊กอิน (AS, AV)·เทคโนโลยี Anti-Rootkit (Anti-Rootkit) · E-Mail IMAP และ NNTP โปรโตคอลการตรวจสอบการสนับสนุน (AV, AS)·จอ Registry กับฐานข้อมูลติดตั้งไว้ล่วงหน้าและสามารถปรับปรุงได้Anti-Virus ตรวจสอบความเสียหายขั้นสูงทำความสะอาดขึ้น (กับสปายแวร์) ·ตรวจสอบแฟ้มใหม่และการเปลี่ยนแปลงตัวเลือก · HTTP, IMAP และตรวจสอบการจราจร NNTP · ODS สแกนระงับเทคโนโลยี (เมื่อผู้ใช้กิจกรรมการตรวจพบ) ·สแกนเริ่มต้นกับฐานข้อมูลปรับปรุง ·ปรับปรุงอนุพันธ์ (ลดลงต่อไปจากขนาดการอัพเดทฐานข้อมูล AV  ตรวจสอบสคริปต์กับ Internet Explorer GUI ปลั๊กอิน



3.การใช้ทรัพยากรเครื่อง/ผลกระทบต่อเครื่อง
          ลดความต้องการใช้ทรัพยากรเครื่องลงไปได้ระดับนึง Windows XP  ใช้ Intel Pentium 800 MHz หรือสูงกว่า (หรือเทียบเท่า)   RAM  512 MB   Windows Vista และ Windows 7  ใช้ Intel Pentium 1 GHz 32 บิต (x86) / 64 bit (x64) หรือสูงกว่า (หรือเทียบเท่า)
1 GB มี RAM



4.จุดเด่นของโปรแกรม
    สามารถกำหนดตารางเวลาการสำรองข้อมูลอัตโนมัติ - เพื่อไดรฟ์ภายนอกหรืออุปกรณ์ USB - เพื่อปกป้องภาพถ่ายเพลงของคุณและเอกสารทางการเงินในกรณีของการโจรกรรมหรือความผิดของฮาร์ดดิสก์ 
            ระบบ Watcher
            แม้ว่าชิ้นที่ไม่รู้จักมัลแวร์การบริหารจัดการที่จะได้รับบนคอมพิวเตอร์ของคุณที่ไม่ซ้ำกันของ Kaspersky ระบบ Watcherจะตรวจจับพฤติกรรมที่เป็นอันตรายและช่วยให้คุณสามารถยกเลิกหรือย้อนกลับการกระทำที่เป็นอันตรายที่สุด

           ป้องกันฟิชชิ่งที่ดีกว่าปรับปรุง!
           เครื่องมือป้องกันฟิชชิ่งใหม่ช่วยเพิ่มการป้องกันของคุณกับความพยายามที่จะกระทำของผู้โจมตีอินเทอร์เน็ตที่จะได้รับการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ

         Exploit ป้องกันอัตโนมัติใหม่
         แม้ว่าคอมพิวเตอร์และการใช้งานทำงานอยู่ในนั้นของคุณยังไม่ได้รับการปรับปรุงด้วยการแก้ไขล่าสุด, Kaspersky Anti-Virus 2013สามารถป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์จากช่องโหว่
    
      คุณสามารถควบคุมการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต, โปรแกรมเกมและเว็บไซต์ - บวก จำกัดการเข้าถึง หรือเข้าสู่ระบบ Instant Messaging และเครือข่ายทางสังคม Kaspersky ยังสามารถป้องกันการถ่ายโอนของโทรศัพท์และหมายเลขบัตรเครดิต


5.รองรับการทำงาน
      Bitdefender 2012 สามารถใช้งานกับระบบปฏิบัติการ Windows XP Service Pack 3 (32-bit), Windows Vista (SP3)   Windows 7    Windows 8  และ  Mac OS X 10.6, 10.7 หรือ 10.8


6.ด้านราคาโปรแกรม
    ราคาค่อนข้างแพง โปรแกรมนี้ มีคุณสมบั ติเป็น Shareware  ดูรายละเอียด 

           ต้องการดาวน์โหลดโปรแกรม


แหล่งข้อมูลที่มาเพิ่มเติม
     http://www.scanwith.com
     http://www.kaspersky.com
     

โปรแกรม Bitdefender Antivirus Plus 2012




1.ประวัติความเป็นมา
       Bitdefender เป็นโปรแกรมของ  Bitdefender company มีที่ตั้งอยู่ที่ประเทศเยอรมนี  ก่อตั้งขึ้นในปี 2001 BitDefender ได้มีการกำหนดมาตรฐานใหม่เสมอและมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยในการป้องกัน สร้างเทคนิคการตรวจสอบใหม่ที่มีการป้องกันการแพร่กระจายของ มัล แวร์ ด้วยผลิตภัณฑ์ระดับโลกและเทคโนโลยีขั้นสูงของ บริษัท ได้จัดตั้งได้อย่างรวดเร็วตัวเองเป็นผู้นำโลก Bitdefender ได้เปิดตลาดต่างประเทศด้วยการเปิดสำนักงานในสหราชอาณาจักรสหรัฐอเมริกา, เยอรมนี, ฝรั่งเศสและสเปนและเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์
     Bitdefender เป็นผลมาจากความคิดสร้างสรรค์และความรู้สึกของแนวโน้มในอุตสาหกรรมการรักษาความปลอดภัยด้านไอทีและมีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอโดยหน่วยงานอิสระเป็นอินเทอร์เน็ตซอฟต์แวร์ที่ดีที่สุดการรักษาความปลอดภัยได้รับการยอมรับ อิสระสถาบันเช่น Av-Test.org, ICSA Lab, Checkmark และ PC World กว่า 100 สถานที่ที่มีความโดดเด่น การันตรี
     Bitdefender 2012 ได้รับรางวัล Best Security Product ประจำปี 2011 จาก AV-TEST ซึ่งผลการทดสอบนั้นมีคะแนนสูงสุดในหลายๆด้าน นอกจากนี้ยังได้รางวัลการันตีคุณภาพจากอีกหลายสถาบัน
              อ่านข้อมูลเพิ่มเติม


2.คุณสมบัติ/ความสามารถในการจัดการ ป้องกันไวรัส
      มีเอนจิ้นในการสแกนไวรัสได้รับการการันตีจาก ICSA Lab, Virus Bullatin, Checkmark, CheckVir และ TUV รวมทั้งระบบป้องกันไวรัสจากอีเมล์ ที่สามารถทำงานกับโปรแกรมรับส่งอีเมล์ทุกชนิด และเทคโนโลยี HiVE สามารถจำลองสภาพแวดล้อมของพีซี เพื่อใช้ตรวจสอบโค้ดหรือโปรแกรมที่คาดว่าจะเป็นไวรัสก่อนที่ระบบปฏิบัติการจะได้รับอันตราย ซึ่งจะช่วยป้องกันก่อนที่จะมีการอัพเดตแพตเทิร์นของไวรัสออกมาเป็นเลเยอร์ความปลอดภัยแบบใหม่ที่มีใน BitDefender


3.การใช้ทรัพยากรเครื่อง/ผลกระทบต่อเครื่อง
     ค่อนข้างใช้ทรัพยากรของเครื่องที่มาก ทรัพยากรเครื่องที่ใช้ แนะนำให้ใช้กับซีพียู Intel Core Duo หรือเทียบเท่า หน่วยความจำแรม 1 GB สำหรับ XP และ 1.5 GB สำหรับ Vista และ Windows 7
        ซึ่งการทำงานที่ตรวจสอบค่อนข้างละเอียดจึงทำให้เครื่องช้าลง 



4.จุดเด่นของโปรแกรม
    ฟีเจอร์ที่เด่นๆ ก็จะมี Auto Pilot ซึ่งจะช่วยวิเคราะห์และตัดสินใจแทนผู้ใช้งานโดยอัตโนมัติ เมื่อโปรแกรมตรวจพบสิ่งผิดปกติหรือมีทางเลือกเกี่ยวกับความปลอดภัยก็จะไม่มีหน้าต่างหรือป็อปอัพเด้งเตือนขึ้นมาให้รำคาญเหมือนบางโปรแกรม
      นอกจากนี้ก็ยังมีความสามารถในการกำจัดไวรัส สปายแวร์ และสแปม การกรองมัลแวร์ที่แฝงมากับลิงค์บน Social Network การป้องกันข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล ฟังก์ชัน Parental Control และ Tune Up เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่อง บริการ SafeBox ที่คอยแบ็กอัพข้อมูลของผู้ใช้ เป็นต้น


5.รองรับการทำงาน
      Bitdefender 2012 สามารถใช้งานกับระบบปฏิบัติการ Windows XP Service Pack 3 (32-bit), Windows Vista (SP3) และ    Windows 7 
        โปรแกรมที่สามารถรองรับการทำงาน Bitdefender Antivirus Plus 2012
           1. Internet Explorer 7 หรือรุ่นที่สูงกว่า
           2. Yahoo Messenger 8.1 หรือรุ่นที่สูงกว่า
           3. Windows Live Messenger 8
           4. Firefox 3.6 หรือรุ่นที่สูงกว่า
           5. Thunderbird 3.0.4
           6. Outlook 2007, 2010
           7. Outlook Express และ Windows Mail on x86
           8.Net framework 3


6.ด้านราคาโปรแกรม
    ราคาเมื่อเทียบกับโปรแกรมป้องกันไวรัสตัวอื่นๆ ก็ไม่แพงมาก โปรแกรมนี้ มีคุณสมบั ติเป็น Shareware  ทางผู้พัฒนา โปรแกรมได้ให้ท่านได้นำไปใช้กันก่อน 30 วัน หาก ถ้าท่านต้องการจะใช้ต่อกันในแบบ ตัวเต็มๆ (Full Version) หรือ แบบไม่มี การจำกัดเวลาละก็ ท่านจะต้อง เสียค่าลงทะเบียน (Register) เป็นเงินจำนวน 372.90 บาท 

           ต้องการดาวน์โหลดโปรแกรม


แหล่งข้อมูลที่มาเพิ่มเติม
      http://www.pctodaythailand.com
      http://software.thaiware.com
      http://www.gotoknow.org
      http://kukahlong.blogspot.com




วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

คำศัพท์เกี่ยวกับ Computer Security and Information Security ครั้งที่ 10

     1.Assessment  คือ การสำรวจและตรวจสอบ การวิเคราะห์ถึงความล่อแหลมของระบบ ตลอดจนกระบวนการนำมาและตรวจดูซึ่งข้อมูล ที่จะช่วยผู้ใช้ให้สามารถตัดสินใจถึงการใช้ทรัพยากรในการปกป้องข้อมูลในระบบ

     2.Exploit Code คือ โปรแกรมที่ออกแบบมาให้สามารถเจาะระบบโดยอาศัยช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการหรือแอพพลิเคชั่นที่ทำงานอยู่บนระบบ เพื่อให้ไวรัสหรือผู้บุกรุกสามารถครอบครอง ควบคุม หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดบนระบบได้

     3.Key logger คือ โปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ที่เข้ามาฝังไว้ยังเครื่องเป้าหมายเพื่อมุ่งหวังในการมาสืบความลับข้อมูลต่าง ๆ ส่วนมากจะมุ่งหวังข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ เช่น ชื่อผู้ใช้ระบบและรหัสผ่าน เพื่อนาเข้าไปใช้เข้าระบบต่าง ๆ และกระทำการใด ๆ ต่อไป

     4.Penetration คือ การเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตในระบบอัตโนมัติโดยการเจาะผ่านเข้าสู่ระบบเพื่อทำการใดๆ

     5.Perpetrator คือ สิ่งที่มาจากสภาพแวดล้อมภายนอกที่เป็นสาเหตุของความเสี่่ยง ที่จะกระทำการโจมตีระบบให้เกิดความเสียหายประใด

วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

คำศัพท์เกี่ยวกับ Computer Security and Information Security ครั้งที่ 9

      1.Adware (advertising-supported software) คือ แอพพลิเคชั่นซอร์ฟแวร์ ซึ่งทำงานและแสดงภาพอัตโนมัติหรือทำการ ดาวน์โหลดสื่อโฆษณาไปสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งานโดยผู้ใช้งานไม่รู้ตัว ลักษณะโดยทั่วไปเป็น pop-up window หรือโฆษณาที่ดึงดูดให้เข้า ไปตามเว็บไซต์นั้นๆ ซึ่งจะมีโฆษณาเข้ามาสู่เครื่องของเรา


     2.Spam คือ อีเมล์ที่เรียกว่าอีเมลขยะ หรือ Junk Mail คืออีเมลที่ถูกส่งไปหาผู้รับ โดยที่ผู้รับไม่พึงประสงค์ ส่วนใหญ่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการโฆษณา ต่าง ๆ และอื่น ๆ ที่สร้างความน่ารำคาญแก่ผู้รับ


     3. Backdoor คือ ระบบจะทำหน้าที่เปิดทางให้ผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถ ควบคุมเข้าไปเครื่อคอมพิวเตอร์ของคุณได้ ส่วนใหญ่แล้วจะมากับการติดตั้งแอพพลิเคชั่นที่ผิดกฎหมายโดยที่ผู้ใช้งาน รู้เท่าไม่ถึงการณ์


     4.Spyware คือ ไวรัสสายสืบที่เข้ามาล้วงความลับหรือการทำธุรกรรมทางด้านของเราแล้วส่งไปยังผู้ที่ส่งมันมาเพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ทีมาล้วงความลับข้อมูลนั้น ซึ่งสปายแวร์จะไม่แพร่เชื้อไปติดไฟล์อื่นๆ ไม่สามารถส่งตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆได้ ต้องอาศัยการหลอกคนใช้ให้ดาวโหลดเอาไปใส่เครื่องเองหรืออาศัยช่องโหว่ของ web browser ในการติดตั้งตัวเองลงในเครื่องเหยื่อ สิ่งที่มันทำคือรบกวนและละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้


     5.Root kit คือ โปรแกรมที่พวก hacker ใช้สำหรับการบุกรุกหรือโจมตีเครื่องคอมพิวเตอร์ ถ้าเครื่องคอมพิวเตอร์ติด Root kit แล้ว อาจถูกควมคุมจาก admin ที่ติดตั้งโปรแกรมนี้ ซึ่งเขาจะทำอะไรๆ ก็ได้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา  ซึ่งส่วนใหญ่จะทำให้เราไม่สามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ได้อย่างปกติ

วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ภัยคุกคามบนระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เรื่อง Trojan และ Key logger

Trojan และ Key logger

  ภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ตถือได้ว่าเป็นภัยอันตรายต่อสังคมในปัจจุบันเป็นอย่างมาก นอกจากเป็นการรบกวนการทำงานของผู้ที่ใช้งานคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตแล้ว ยังส่งผลเสียต่อข้อมูลที่มีความสำคัญอีกด้วย


  Trojan และ Key logger เป็นซอฟท์แวร์ประเภทแอบแฝงอยู่ในระบบ ซึ่งเจ้าพวกนี้จะคอยตรวจสอบการทำงานต่างๆของคุณ เป็นวัยร้ายเข้ามาล้วงความลับข้อมูลตลอดจนจับตาดูการกดแป้นพิมพ์ของคุณที่เข้าสู่ระบบต่างๆและส่งไปยังผู้ที่ปล่อยพวกมันมา เพื่อนำข้อมูลไปเป็นประโยชน์ไม่ว่าประการใดประการหนึ่ง




โทรจัน (Trojan)
โทรจัน (Trojan) ชื่อเรียกของโปรแกรมจำพวกนี้ มาจากตำนานของม้าไม้แห่งเมืองทรอย โทรจันเป็นโปรแกรมจำพวกหนึ่งที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อแอบแฝงกระทำการบางอย่าง ในเครื่องของเรา โดยถูกส่งมาจากผู้ที่ไม่หวังดี โทรจันจะถูกแนบมากับอีเมล์ หรือโปรแกรมที่ให้ดาวน์โหลดตามอินเทอร์เน็ตในเว็บไซต์ใต้ดิน ซึ่งจะเข้ามาในเครื่องของเรา โดยที่เราเป็นผู้รับมันมาโดยไม่รู้ตัว ซึ่งผู้บุกรุกสามารถทำอะไรกับเครื่องขอคุณก็ได้ เหมือนกับเขาได้มานั่งอยู่หน้าเครื่องคุณอย่างนั้นเลย


        โปรแกรม Trojan  มีหลายตัวมากเหมือนไวรัส ที่ออกมาบ่อย แต่เท่าที่พบบ่อยมากที่สุด คือ BO Net Bus โดยที่ส่วนใหญ่ใช้ในการขโมย Password กับเข้าควบคุมเครื่องเป้าหมาย  การที่จะรู้ว่ามีผู้บุกรุกแล้วอันนี้ตรวจสอบค่อยข้างยากเพราะไม่ค่อยออกอาการเหมือนไวรัส ถ้าผู้ที่แอบเข้ามาในเครื่องไม่แสดงตัวก็จะไม่รู้ได้เลยว่ามีผู้บุกรุกเข้ามาในเครื่อง

การสังเกตอาการว่าโดนเจ้าโทรจันบุกรุก
  นอกจากใช้โปรแกรมตรวจจับ วิธีที่พอจะทำให้รู้ว่ามีเครื่องมีเจ้า Trojan ทำได้ดังนี้
1. หมั่นใช้โปรแกรมตรวจจับโทรจัน บ่อยๆ และหมั่น Upgrade โปรแกรมตรวจจับโทรจัน
2. คอยสังเกตดูอาการต่างๆ ที่ผิดปกติของเครื่อง
3. การเล่นอินเทอร์เน็ท ต้องบันทึกวันเวลาและจำนวนชั่วโมงที่ใช้เสมอ และตรวจสอบกับทาง ISPว่าตรงกันหรือไม่
4. ทุกครั้งที่ Log in เข้าระบบไม่ได้ทั้งที่ชั่วโมงอินเทอร์เน็ทยังไม่หมด ให้สันนิษฐานว่าโดนขโมยUsername กับ Pass word ให้ตรวจสอบกับทาง ISP


การป้องกันไม่ให้เครื่องโดนเจ้าโทรจันบุกรุก
       การติด Trojan จะคล้ายกับ Virus แต่ไม่ง่ายเท่า เพราะว่าโปรแกรม Trojan มีขนาดที่ใหญ่กว่าไวรัสมาก การป้องกันทำดังนี้
1. ไม่รับไฟล์ใดทาง Internet จากคนแปลกหน้าไม่ว่าทาง E-Mail  ICQ และโปรแกรม IRC ต่างๆ
  2. ตรวจสอบไฟล์ที่รับทาง Internet ทุกครั้งที่ Download มาด้วยด้วยโปรแกรมตรวจจับTrojan รวม
        3. ไม่เข้าเว็บไซต์ที่อาจเป็นภัยอันตราย
4. ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสและโทรจัน เช่น โปรแกรม Trojan Remover หรือ Anti Trojan Elite เพื่อเป็นส่วนช่วยในการป้องกันอีกทางหนึ่ง



Key Logger ภัยร้ายบนแป้นพิมพ์
     Key Logger คือ อาชญากรรมที่เกิดขึ้นกับคอมพิวเตอร์ที่มีผลกระทบค่อนข้างรุนแรง เพราะผู้ไม่หวังดีจะบันทึกการกดแป้นพิมพ์บนคอมพิวเตอร์ของคุณ ขโมยข้อมูลทุกอย่างที่อยู่บนเครื่อง ตั้งแต่รหัสผ่านอีเมล รหัสถอนเงินผ่าน e-banking รหัสซื้อขายหุ้น และความลับทุกอย่างที่คุณพิมพ์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งแฮกเกอร์พวกนี้จะนำข้อมูลของคุณไปเพื่อข่มขู่ แบล็กเมล นำรหัสบัตรเครดิตไปซื้อสินค้า รวมทั้งนำข้อมูลไปใช้ในทางมิชอบอื่นๆ
       เจ้า Key Logger ส่วนใหญ่องค์กรใหญ่จะเป็นเป้าหมายของการโจมตีหรือแม้แต่ผู้ทั่วไปก็มีสิทธิ์ถูกล้วงข้อมูลได้ เนื่องจาก Key Logger เป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่ติดตั้งได้ทั้งด้านหลังเครื่องคอมพิวเตอร์ ฝังไว้ในแป้นพิมพ์ หรืออาจเป็นซอฟต์แวร์ที่ฝังอยู่ในระบบปฏิบัติการ และแพร่กระจายได้พร้อมกับไวรัส ผ่านทางธัมป์ไดรฟ์ ผ่านทางการแชท หรือผ่านทางอีเมลล์ก็ได้




วิธีการป้องกันภัยจาก Key Logger

  1.ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัส สำหรับ Key Logger แบบซอฟต์แวร์ หากจะป้องกันในระดับ advance ก็สามารถหาซอฟต์แวร์ที่ช่วยตรวจจับ Key Logger มาใช้ ซึ่งสามารถช่วยปิดการติดต่อระหว่าง Key Logger กับคอมพิวเตอร์ และยังช่วยแจ้งเตือนไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติด้วย และอีกวิธีคือป้องกัน Key Logger แบบฮาร์ดแวร์ด้วยการควบคุมการเข้าใช้ของพนักงาน เพื่อไม่ให้สามารถลักลอบติดตั้งอุปกรณ์ที่ตัวเครื่องได้

  2.องค์กรควรสร้างมาตรการป้องกัน Key Logger โดยการให้ความรู้และการอบรมพนักงานผู้ใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อให้เกิดความระวังและหมั่นตรวจสอบเครื่องของตน   

  3.การเปลี่ยนมาใช้ Notebook PC แทน Desktop PC เพราะแป้นพิมพ์ของโน้ตบุ๊กติดตั้งอุปกรณ์ Key Logger ได้ยากกว่า อีกทั้งยังสามารถพกพาติดตัวไปได้ตลอดเวลา จึงลดโอกาสที่ผู้ไม่หวังดีจะแอบมาติดตั้ง Key Logger บนเครื่องของคุณได้

  4. ควรเพิ่มมาตรการตรวจสอบรหัสผ่านเพิ่มขึ้น แม้โดยปกติเรามีการตรวจสอบด้วย Username และ Password อยู่แล้ว แต่เพื่อความไม่ประมาทควรมีการตรวจสอบรหัสผ่านโดยใช้ Secure Token, Smart card หรืออุปกรณ์อื่นอีกชั้นหนึ่ง และควรมีการเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำ เพื่อป้องกันคนร้ายที่ได้รหัสก่อนหน้านี้กลับเข้ามาขโมยข้อมูลได้อีก
       5.การใช้เมนูแบบ Drop Down เพื่อทดแทนเมนูแบบที่ต้องพิมพ์ หรือใส่ข้อมูลด้วยการคลิกตัวอักษรบนหน้าจอแทนการพิมพ์ ซึ่ง Key Logger จะไม่สามารถดักจับข้อมูลได้

ข้อเสนอแนะและความคิดเห็น
      การใช้ระบบเครือข่ายนั้นมีความเสี่ยงในด้านต่างๆ เสมอ ผู้ใช้ควรรู้เท่าทันและมีวิธีการรับมือ ด้วยการศึกษาหาความรู้ตลอดเวลา และควรปฏิบัติงานต่างๆบนระบบเครือข่ายอย่างระมัดระวัง และมีการตรวจสอบดูแลป้องกันเครื่องของท่านจากภัยคุกคามอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจส่งผลเสียตามมาในอนาคต



อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล
 http://www.nattapon.com ,หัวข้อ ภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ต,18 ธันวาคม 2011
 http://suwanwong9.blogspot.com,หัวข้อ Trojan And Key Logger,  6 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
 http://nookeyshionno6.wordpress.com, หัวข้อ ภัยคุกคามทางอินเตอร์เน็ต, 6 กุมภาพันธ์ 2012





วันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

คำศัพท์เกี่ยวกับ Computer Security and Information Security ครั้งที่ 8

     1.Incident คือ การละเมิดความปลอดภัยคอมพิวเตอร์และเครือข่าย การโจมตีที่สามารถเห็นได้ชัดเจนถึงผู้โจมตี วิธีการโจมตีจุดมุ่งหมายที่เกี่ยวข้อง และเวลาที่โจมตี


     2.Information Assurance คือ ปฏิบัติการทางข้อมูลที่ปกป้องข้อมูลและระบบข้อมูลโดยทำให้มี ความเชื่อถือได้ในเรื่อง การมีอยู่ของข้อมูล ความสมบูรณ์ความลับ ซึ่งรวมถึงการกู้คืนระบบข้อมูลโดยการใช้ขีดความสามารถทางการปกป้องการตรวจจับ และการโต้ตอบ รวมกัน


     3.Mailbomb คือ Mail ที่กระตุ้นให้ผู้อื่นส่ง e-mail จำนวนมากไปสู่ระบบระบบเดียวหรือคนคนเดียว โดยมีเจตนาที่จะทำให้ระบบของผู้รับเกิดปัญหาในการรับอีเมล์อาจทำให้ระบบแฮงค์จากการทำงานที่มุ่งตรงสู่จุดเดียว นั้นถือกันว่าเป็นการกระทำผิดที่ร้ายแรง


     4.Misuse Detection Model คือ การตรวจจับการบุกรุกโดยตรวจกิจกรรมเกี่ยวกับเทคนิคการบุกรุกที่ทราบหรือกิจกรรมเกี่ยวกับความล่อแหลมของระบบ 


     5.Penetration Testing คือ ส่วนหนึ่งของการทดสอบความปลอดภัย โดยที่ผู้ประเมินพยายามที่จะข้ามผ่านระบบรักษาความปลอดภัยของระบบ

วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

คำศัพท์เกี่ยวกับ Computer Security and Information Security ครั้งที่ 7

     1.Electronic Attack คือ การโจมตีระบบด้วยาคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ลำพลังงาน และอาวุธต่อต้านการแพร่รังสี มาโจมตีการทำงานของระบบ โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะลดประสิทธิภาพ ทำให้ใช้การไม่ได้ หรือ
ทำลายขีดความสามารถในการทำงานน้อยลง

    2.False Negative คือ การเกิดมีการบุกรุกเกิดขึ้นแต่ระบบไม่ทำการป้องกันแต่เปิดโอกาสให้เกิดการบุกรุกขึ้น โดยระบบคิดว่าปลอดภัย


    3.Firewall คือ ระบบหนึ่งหรือหลายระบบที่สร้างข้อบังคับให้มีเส้นแบ่งเขตระหว่างสองเครือข่ายเกิดขึ้น
เป็น Gateway ที่จำกัดการเข้าถึง ให้เป็นไปตามนโยบายการรักษาความปลอดภัยของเครือข่ายนั้นๆ


    4. Salami Attack คือ การโจมตีที่เป็นการก่ออาชญากรรมในการทำธุรกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ โดยการเข้าไปในเครือข่ายแล้วแอบเอาเศษเงินที่เป็นทศนิยมโอนเข้าบัญชีตัวเอง


    5.Authentication คือ การพิสูจน์ตัวตน คือขั้นตอนการยืนยันความถูกต้องในการเข้าใช้ระบบ (Identity) เพื่อแสดงตัวว่ามีสิทธิในการเข้าใช้ระบบได้จริง

วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

คำศัพท์เกี่ยวกับ Computer Security and Information Security ครั้งที่ 6

      1. Smurfing คือ การโจมตีเพื่อให้เกิดการขัดขวางหรือก่อกวนระบบเครือข่าย  ซึ่งผู้โจมตีปลอมแปลง address ของ source packet ที่ร้องขอการสะท้อนกลับแบบ ICMP (หรือ ping) ให้เป็น broadcast address ของเครือข่ายนั้น และทำให้เครื่องต่างๆบนเครือข่ายตอบสนองอย่าล่าช้าติดขัด

      2. Public Key Cryptography คือ ชนิดของการเข้ารหัสลับซึ่่งสาธารณชนสามารถทราบถึงกระบวนการเข้ารหัสได้และไม่ มีการปิดเป็นความลับ แต่จะมีการปกปิดส่วนหนึ่งของกุญแจถอดรหัสไว้ ซึ่งเฉพาะผู้ที่ทราบถึงกระบวนการถอดรหัสทั้งสองส่วนจะสามารถถอดรหัสลับของข้อความได้

     3. Spoofing คือ การแสร้งว่าเป็นผู้อื่น การชักจูงผู้ใช้ให้ใช้ทรัพยากรโดยจงใจให้กระทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง พยายามที่จะให้ได้มาซึ่งการเข้าถึงระบบข้อมูลอัตโนมัติโดยแสร้งว่าเป็นผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาตแล้ว

    4. Fake Webpage คือ หน้า webpage ที่มีผู้ปลอมแปลงพยายามสร้างขึ้นมาให้เหมือนหรือใกล้เคียงกับsite จริงมากที่สุด เพื่อให้เหยื่อผู้หลงเชื่อกรอกข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ที่ต้องการลงไป

   5. Vulnerability Analysis คือ การตรวจสอบอย่างเป็นระบบในระบบข้อมูลอัตโนมัติเพื่อที่จะหา มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม, พิสูจน์ทราบถึงความบกพร่องในด้านความปลอดภัยการ ให้ข้อมูลที่จะสามารถนำมาทำนายถึงประสิทธิภาพของมาตรการความปลอดภัยที่ยืนยันถึงความเหมาะสมของมาตรการดังกล่าวหลังจากที่มีการใช้แล้ว

วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

คำศัพท์เกี่ยวกับ Computer Security and Information Security ครั้งที่ 5


     1. File Virus   คือ ไวรัสไฟล์ข้อมูล โดยมากจะติดมากับไฟล์ที่มักเรียกใช้บ่อย ส่วนมากมักจะมีประสงค์ร้ายและสร้างความเสียหายให้กับระบบของเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นๆมีความสามารถในการสำเนาตัวเองเข้าไปติดอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ ถ้ามีโอกาสก็สามารถแทรกเข้าไประบาดในระบบคอมพิวเตอร์อื่น ๆ ได้  เช่น ไฟล์นามสกุล .exe, .dll,.com ตัวอย่าง Jerusalem, Die Hard II

    2. Boot Sector Virus  คือ ไวรัสที่แฝงตัวในบูตเซกเตอร์ของแผ่นดิสก์ ทุกครั้งที่มีการใช้แผ่นดิสก์หรือเรียกใช้ข้อมูลจะต้องมีการอ่านข้อมูลในบูตเซกเตอร์ทุกครั้ง ทำให้โอกาสติดไวรัสได้ง่าย

    3. Retro-Virus คือ ไวรัสที่รออยู่จนกระทั่งข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่ทั้งหมดติดเชื้อก่อน ดังนั้นจึงทำให้ไม่สามารถฟื้นฟูระบบให้กลับสู่สภาพเดิมได้

    4. Macro Virus  คือ ไวรัสเป็นไวรัสที่เขียนขึ้นมาจากคำสั่งภาษามาโคร ที่มีอยู่ในโปรแกรมประมวลผลคำ, หรือโปรแกรมในชุดไมโครซอพต์ออฟฟิสเมื่อเราเปิดเอกสารที่มีไวรัส ไวรัสก็จะแพร่กระจายไปยังไฟล์อื่น

     5.Worm คือ เจ้าหนอนคอมพิวเตอร์ เป็นโปรแกรมอิสระที่สำเนาตัวเองจากเครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งโดยผ่านการเชื่อมต่อทางเครือข่าย โดยปกติแล้วจะเป็นที่กีดขวางในการวิ่งของtraffic ในเครือข่ายและระบบข้อมูลในระหว่างที่ตัวมันกระจายตัวเองออกไปได้ เป็นต้น





วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2555

antivirus จัดอันดับ TopTen 10 สุดยอด Antivirus แห่งปี 2012

     Antivirus คือ โปรแกรมประเภทหนึ่งที่ช่วยป้องกัน ตรวจหา และกำจัดไวรัสก่อนที่ไวรัสนั้นจะเข้ามาทำลายโปรแกรมหรือข้อมูลในเครื่อง คอมพิวเตอร์ มีหน้าที่การทำงาน 2 ลักษณะ คือ ระบุชื่อของไวรัสที่รู้จัก และตรวจสอบผลของการทำลายจากไวรัสในแฟ้มต่างๆ  เป็นเสมือนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดในระดับที่เป็น bodyguard ของคอมพิวเตอร์ ที่ทำหน้าคอยคุ้มกันคอยระวังและคุ้มกันสิ่งที่ไม่ประสงค์ดีที่คอยเข้ามาก่อกวน  อีกประการหนึงเราอาจเปรียบโปรแกรม Antivirus เสมือนยาสามัญประจำบ้านที่เราจำเป็นต้องมีติดไว้เพื่อใช้รักษาโรค  ซึ่งโรคเหล่านั้นก็เปรียบได้กับ virus ประเภทต่าง ๆ และหากมีโรคชนิดใหม่เกิดขึ้นเราก็จำเป็นจะต้องหายามาเตรียมพร้อมไว้ซึ่งก็ คือการอัพเดตโปรแกรม Antivirus ให้รู้จัก virus และวิธีการกำจัด virus นั่นเอง
      10 อันดับ Antivirus ที่ได้คะแนนและเป็นที่นิยมสูงสุดแห่งปีนั้นๆจากทางเว็บไซต์จัดอันดับ Topten ชื่อดังอย่าง   toptenreview




  อันดับที่ 1. Bitdefender Antivirus Plus 2012
      อันดับ 1 ปีนี้ยังคงเป็นของเจ้าเก่าเจ้าเดิมที่ครองแชมป์ แม้จะเป็นโปรแกรมที่มีคนส่วนมากให้ความเห็นว่ากินทรัพยากรเครื่องมาก แต่ก็ยังเป็นโปรแกรมที่มีคนใช้เป็นจำนวนมาก  ซึ่งรุ่นใหม่ที่ออกมาได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี ด้วยการตัดpop up เตือนต่างๆออกไป และการตั้งค่าที่ทำได้ง่ายขึ้น แถมยังมี Social Networking Protection เพิ่มเติมขึ้นมาเพื่อปกป้องคุณจากการเข้าสังคมออนไลน์เข้ามาทำให้เป็นที่น่าสนใจของผู้ใช้ที่อยู่ในสังคมออนไลน์ในปัจจุบัน
        ดูข้อมูลเพิ่มเติม / คุณสมบัติ
  

     อันดับที่ 2.Kaspersky Antivirus 2012

      อันดับ 2 โปรแกรมขวัญใจคนไทย เจ้าโปรแกรมจากรัสเซียตัวนี้ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ อีกยังลดความต้องการใช้ทรัพยากรเครื่องลงไปได้ระดับนึง แต่เรื่องของการป้องกันแบบ Real-time อีกยังมีพัฒนาต่อเนื่อง ระบบที่สร้างขึ้นมาเพื่อความปลอดภัยของการซื้อขายออนไลน์ต่างๆ เมื่อเทียบกันแบบตัวต่อตัวกับอันดับหนึ่ง มีเพียงยอดขายและฟังก์ชั่นบางอย่างที่ได้คะแนนน้อยกว่านิดหน่อยเท่านั้น แต่ตัวใหม่นี่เรื่องการแสกนทำได้เร็วมากขึ้นกว่าเดิม
        อันดับ 3. Panda Antivirus 2012

       อันดับ 3 โปรแกรมที่ไม่ติดหนึ่งในสิบอันดับเมื่อปีที่แล้ว แต่มาปีนี้ขึ้นอันดับมาได้ ด้วยระบบ Cloud Computing ที่ทำให้ระบบการป้องกันไวรัสของ Panda จากเยอรมันนีได้ไต่ขึ้นมาถึงอันดับสาม จากการใช้งานทรัพยากรเครื่องต่ำ เน้นการดูแลด้านการใช้งานอินเตอร์เน็ต เข้ากันได้กับ Firefox และ Chrome แถมเป็นเจ้าแรกๆที่ดันเรื่องของระบบ antivirus แบบ Cloud อีกด้วย
                ดูข้อมูลเพิ่มเติม / คุณสมบัติ

        อันดับ 4.F-Secure Anti-Virus



       อันดับ 4 โปรแกรมรุ่นน้องอีกตัวจาก Finland ที่เพิ่งจะได้เข้ามาใน topten  เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นโปรแกรมที่น่าจับตามองมาก ด้วยความเร็วในการแสกน  ความง่ายของของการใช้งาน ซึ่งแทรนด์นี้มาแรงหลังจาก Apple ขึ้นมาในกระแสคนไทย เสียดายที่ยังไม่มีระบบรองรับเหล่า Gamer และ USB Detect ที่ใช้งานกันมาก
         ดูข้อมูลเพิ่มเติม / คุณสมบัติ

        อันดับ 5 AVG antivirus 2012

       อันดับ 5 ขึ้นมาจากเมื่อปีที่แล้วได้ 1 ขั้น สำหรับโปรแกรม Freeware ที่เป็นที่รู้จักดีในหมู่คนไทย แต่ตัวนี้เสียเงินและมีคุณภาพเยี่ยมมากๆ จนได้ขึ้นมาระดับนี้ สามารถทำงานได้ดีในการตรวจสอบ web และ link ต่างๆ อีกทั้งไม่หนักเครื่องมากนัก
        ดูข้อมูลเพิ่มเติม / คุณสมบัติ

        อันดับ 6. Avast Pro Antivirus 2012

       อันดับ 6 โปรแกรมที่มีสโลแกนนี้ได้ไต่อันดับขึ้นมาไวเพราะปีที่แล้วไม่ติดอันดับเลย แต่อาจเป็นเพราะเรื่องของ SafeZone ที่คอยป้องกันอันตรายแฝงมาบนอินเตอร์เน็ตที่ทำให้ก้าวมาถึงตรงนี้ได้
          ดูข้อมูลเพิ่มเติม / คุณสมบัติ

        อันดับ 7.G data

       อันดับ 7 โปรแกรมจากเยอรมันนี ที่ดูจะสนใจประเทศไทยไม่น้อยเพราะมาตั้งเว็บภาษาไทยสนันสนุนคนไทย อยู่เป็นเรื่องเป็นราว ใน Forum ก็มีคนคอยให้คำแนะนำอยู่ถือว่าได้ใจผู้ใช้ไปไม่น้อย แต่ปีนี้ก็ยังอยู่ในอันดับเดิมกระเถิบไม่ขึ้น ทั้งที่มีการเพิ่มฐานข้อมูลถึง 2 ชั้น
        ดูข้อมูลเพิ่มเติม / คุณสมบัติ

        อันดับ 8.BullGuard Antivirus

       อันดับ 8 โปรแกรมน้องใหม่สำหรับ Topten แต่มาแรงไม่น้อยเพราะแซงหน้ารุ่นพี่ขาใหญ่ไปได้ แต่ความสามารถยังธรรมดาที่ดูโดเด่นขึ้นมาคงเป็นหน้าตาในการใช้งาน และระบบป้องกัน Spammail ที่รองรับกับทุกๆ mail-client จึงทำให้เป็นที่จับตามองของฟังชั่นนี้
       อันดับ 9.Avira AntiVir

       อันดับ 9 ร่มแดงที่ใครหลายคน เคยเทใจให้ไปตกมา 1 อันดับ อาจเป็นเพราะความสามารถในการ ค้นหาไวรัสที่หลายเสียงบ่นออกมาว่าไม่เจอเท่าเจ้าอื่นๆ  แต่ด้วยคุณสมบัติใช้งานง่าย ควบคุมง่ายและเหมาะกับ Notebook,Laptop ก็ทำให้ยังไม่หล่นไปมากกว่านี้ 
       อันดับ 10.ESET NOD32 Antivirus

       อันดับ 10 ดูว่าตาเขียวจะจะล่วงหล่น ทั้งๆที่คนไทยยังนิยมใฃ้กันไม่น้อยแต่อันดับกับล่วงลงมา ด้วยฟังก์ชั่น คุณสมบัติต่างๆเท่าที่ Antivirus เค้ามีกัน Nod ก็มีครบ หรือแม้แต่จะพัฒนาความ “หน่วง” แล้วแต่ก็ยังไม่สามารถแสกนชนะอันดับต้นๆได้ ปีนี้จึงเกือบหลุดวงโคจรออกมา



อ้างอิงแหล่งที่มาข้อมูล http://teerapuch.wordpress.com/2012/01/07/topten10-antivirus-2012/ 

ผู้จัดทำ นางสาวธันยพร พัวเกาศัลย์
          นางสาวประภาพร ดีเด่น
          นางสาวนวพร ศิริธรรม
          นายกรวิทย์ ปานสวย