วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2555

พระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐




          มาตรา ๕ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึง
โดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกิน
หนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
          แปลความว่า ผู้ใดลักลอกเจาะผ่านเข้าใช้ระบบโดยที่ตนถูกกำหนดให้ไม่มีสิทธิเข้าใช้ ตัวอย่างเช่น การเจาะเข้าใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ผู้นั้นถูกห้ามไม่ให้เข้าใช้ ต้องระวังโทษจำคุกหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
_____________________________________________________________________________


          มาตรา ๖ ผู้ใดล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะ
ถ้านำมาตรการดังกล่าวไปเปิดเผยโดยมิชอบในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
          แปลความว่ ผู้ใดที่ลักลอบรู้เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ส่วนตัวของผู้อื่นแล้วนำข้อมูลการป้องกันที่รู้ไปเผยแพร่โดยเป็นการทำให้ผู้อื่นเกิดความเสียหาย ตัวอย่างเช่น การล่วงรู้ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน แล้วนำข้อมูลนี้ไปเผยแพร่แก่สาธารณะก่อให้เกิดความเสียหายหรือละเมิดสิทธิส่วนบุคคลแก่ผู้อื่น ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

_____________________________________________________________________________


          มาตรา ๗ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ
และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ
          แปลความว่า ผู้ใดที่ลักลอบเข้าใช้งานข้อมูลโดยเจาะผ่านระบบป้องกันซึ่งสร้างไว้ป้องกันผู้นั้นเฉพาะ  ตัวอย่างเช่น นาย ก ตังรหัสป้องกันการเข้าใช้ไฟล์เอกสารเพื่อป้องกันไม่ให้นาย ข เข้ามาอ่านหรือแก้ไข แต่นาย ข ได้กระทำการลักลอบเจาะผ่านการป้องกันเข้ามาอ่านและแก้ไขก่อให้เกิดความเสียหาย ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

_____________________________________________________________________________

          มาตรา ๘ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อดักรับไว้
ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่อยู่ระหว่างการส่งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น
มิได้มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อให้บุคคลทั่วไปใช้ประโยชน์ได้ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน
สามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
          แปลความว่า ผู้ใดที่ทำการลักลอบดักจับข้อมูลที่ทำการส่งผ่านเครือข่ายเพื่อล่วงรู้ความลับหรือเอาไปให้แก่คนอื่นใช้ประโยชน์ อันสร้างความเสียหายให้แก่เจ้าของข้อมูล ตัวอย่างเช่น นายเอ ดักจับการส่งข้อมูลด้านการตลาดของบริษัท บี แล้วนำข้อมูลนั้นไปให้บริษัทคู่แข่งของบริษัท บี ทำให้คู่แข่งรู้กลยุทธและตัดหน้า ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท บี  ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

_____________________________________________________________________________


          มาตรา ๙ ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือ
บางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกิน
หนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
          แปลความว่า ผู้ใดทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนของข้อมูลของผู้อื่นโดยประสงค์ร้ายอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น เช่นการตัดต่อรูปภาพของคนมีชื่อเสียงให้อนาจารอันก่อให้เกิดความเสียชื่อเสียง ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกิน
หนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

_____________________________________________________________________________


          มาตรา ๑๐ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์
ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ต้องระวางโทษจำคุก
ไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
          แปลความว่า ผู้ใดทำการก่อกวน สร้างความขัดข้อง ขัดขวาง รบกวนการทำงานจนเครื่องคอมพิวเตอร์ผู้อื่นไม่สามารถทำงานได้ ตัวอย่างเช่น การส่งข้อมูลซ้ำๆ กันเป็นจำนวนมากเพื่อเข้าโจมตีเครื่องบริการทำให้เครื่องบริการไม่สามารถทำงานได้ ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

_____________________________________________________________________________



          มาตรา ๑๑ ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่นโดยปกปิด
หรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของ
บุคคลอื่นโดยปกติสุข ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท
          แปลความว่า ผู้ใดที่ส่งข้อมูลหรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ โดยปกปิดตัวตนในการส่ง อันเป็นการก่อกวนสร้างความรำคาญแก่ผู้รับ ตัวอย่างเช่น การส่งสแปมป์เมล์ไปยังผู้รับโดยไม่ระบุผู้ส่งเป็นจำนวนมากเพื่อให้อีเมล์ของผู้อื่นเต็มหรือรกสร้างความรำคาญ ลำบากในการอ่านจดหมายอื่น ต้องระวังโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท

_____________________________________________________________________________




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น